KAOPANSA2557-2_355
ดูภาพ2557
      ปี 2558
วันเข้าพรรษา
โรงทานจัดวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม
ผู้สนใจร่วมโรงทานติดต่อแจ้งให้ทางวัดทราบ
ร่วมบุญกุศลสามัคคีรวมใจมีการอุปสมบทพระภิกษุ
วันศุกร์ที่ 31. กรกฏาคม เวลา 13.00 น นาย SIMON VINTHER
วันที่ 1 สิงหาคม บวชพระ 2 รูปและวันจันทร์ที่ 3 สิงหาคมบวชพระ 1 รูป
ท่านผู้ใดสนใจจะมาร่วมบุญบวชพระ อนุโมทนาทางเจ้ายินดีต้อนรับ
วันเสาร์ที่ 1 และอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม หล่อเทียนเข้าพรรษา
โรงทานวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม
พระปลัดประสงค์ ปริปุณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าชิคาโก
ผู้ร่วมก่อตั้งวัดป่าโคเปนเฮเกน เดินทางมาถึงแล้ว
ผู้ที่สนใจธรรมมาฟังธรรมะจากท่านได้

กำหนดการจัดงาน

วันอาสาฬหบูชา-วันเข้าพรรษา 1 และ 2 สิงหาคม 2558

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม 2558

10.30 น. ทำบุญตักบาตรไหว้พระสวดมนต์

– หล่อเทียนจำนำพรรษา

– พิธีเวียนเทียนเนื่องในวันอาสาฬหบูชา

อาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2558

09.00 น ทำบุญตักบาตรไหว้พระสวดมนต์

– ถวายภัตตาหาร พระสงฆ์ฉันเพล

– สาธุชนร่วมรับประทานอาหาร

12.30 น.กล่าวคำถวายเทียนจำนำพรรษา-ผ้าอาบน้ำฝน

– ทำพิธีขอขมาลาโทษพระสงฆ์

– ปวารณาเข้าพรรษา

เสร็จพิธี

ร่วมหล่อเทียนเข้าพรรษาเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตัวท่านเอง

อนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ร่วมงานบุญกับทางวัดป่าโคเปนเฮเกนมาโดยตลอดขอให้ทุกท่านจงประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไป เทอญ

คณะสงฆ์วัดป่าโคเปนเฮเกน

สังคาเม มะตัง เสยโย ยัญเจ ชีเว ปะราชะโย

ตายในสนามรบ ยังดีกว่าอยู่อย่างผู้พ่ายแพ้

วันเข้าพรรษาปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที 1 สิงหาคม

ไม่มีการบวชเนกขัมมะระหว่างวันที่ 1-2 สิงหาคม 2558

เวียนเทียนวันอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษาวันเสาร์ที่ 1  และ วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2558

หล่อเทียนเข้าพรรษา

เชิญร่วมหล่อเทียนเข้าพรรษาปี 2558 ในวันที่ 1-2 สิงหาคมนี้

เวลา 12.30 ทำพิธีหล่อเทียน เข้าพรรษา และเวียนเทียน

อธิษฐานใจร่วมหล่อเทียนเข้าพรรษาให้มีความสุข โชคดี ตลอดหน้าร้อนปีนี้ และตลอดไป

ร่วมบวชพระภิกษุเข้าพรรษาปีนี้วันที่ 1-2 สิงหาคม 2558

ต ร ง กั บ วั น แ ร ม ๑ ค่ำ เ ดื อ น ๘

” เข้าพรรษา” แปลว่า “พักฝน” หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่นๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เว้นแต่มีกิจธุระเจ้าเป็นซึ่งเมื่อเดินทางไปแล้วไม่สามารถจะกลับได้ในเดียว นั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนึ่งไม่เกิน 7 คืนเรียกว่า สัตตาหะ หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์ แห่งการจำพรรษา จัดว่าพรรษาขาด ระหว่างเดินทางก่อนหยุดเข้าพรรษา หากพระภิกษุสงฆ์เข้ามาทันในหมู่บ้านหรือในเมืองก็พอจะหาที่พักพิงได้ตาม สมควร แต่ถ้ามาไม่ทันก็ต้องพึ่งโคนไม้ใหญ่เป็นที่พักแรม ชาวบ้านเห็นพระได้รับความลำบากเช่นนี้ จึงช่วยกันปลูกเพิง เพื่อให้ท่านได้อาศัยพักฝน รวมกันหลาย ๆองค์ ที่พักดังกล่าวนี้เรียกว่า “วิหาร” แปลว่าที่อยู่สงฆ์ เมื่อหมดแล้ว พระสงฆ์ท่านออกจาริกตามกิจของท่านครั้งถึงหน้าฝนใหม่ท่านก็กลับมาพักอีก เพราะสะดวกดี แต่บางท่านอยู่ประจำเลย บางทีเศรษฐีมีจิตศัรทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ก็เลือกหาสถานที่สงบเงียบไม่ห่างไกลจากชุมชนนัก สร้างที่พัก เรียกว่า “อาราม” ให้เป็นที่อยู่ของสงฆ์ดังเช่นปัจจุบันนี้

โดย ปรกติเครื่องใช้สอยของพระตามพุทธานุญาตให้มีประจำตัวนั้น มีเพียงอัฏฐบริขารอันได้แก่ สบง จีวร สังฆาฏิ เข็ม บาตร รัดประคด หม้อกรองน้ำ และมีดโกน และกว่าพระท่านจะหาที่พักแรมได้ บางทีก็ถูกฝนต้นฤดูเปียกปอนมา ชาวบ้านที่ใจบุญจึงถวายผ้าอาบน้ำฝนสำหรับให้ท่านได้ผลัดเปลี่ยน และถวายของจำเป็นแก่กิจประจำวันของท่านเป็นพิเศษในเข้าพรรษานับเป็นเหตุให้ มีประเพณีทำบุญเนื่องในวันนี้สืบมา

*** เพิ่มเติม ***

“ผ้าจำนำพรรษา” คือผ้าที่ทายกถวายแก่พระสงฆ์ผู้อยู่จำพรรษาครบแล้วในวัดนั้น ภายในเขตจีวรกาล เรียกอีกอย่างว่า “ผ้าวัสสาวาสิกสาฎิกา”

“ผ้าอาบน้ำฝน” คือผ้าสำหรับอธิษฐานไว้ใช้นุ่งอาบน้ำฝนตลอด ๔ เดือนแห่งฤดูฝน เรียกอีกอย่างว่า “ผ้าวัสสิกสาฏิกา”

การที่พระภิกษุสงฆ์ท่านโปรดสัตว์อยู่ประจำเป็นที่เช่นนี้ เป็นการดีสำหรับสาธุชนหลายประการ กล่าวคือ ผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามพระพุทธบัญญัติก็นิยมบวชพระ ส่วนผู้ที่อายุยังไม่ครบบวชผู้ปกครองก็นำไปฝากพระ โดยบวชเป็นเณรบ้าง ถวายเป็นลูกศิษย์รับใช้ท่านบ้าง ท่านก็สั่งสอนธรรม และความรู้ให้ และโดยทั่วไป พุทธศาสนิกชนนิยมตักบาตรหรือไปทำบุญที่วัด นับว่าเป็นประโยชน์การปฏิบัติตน ในวันนี้หรือก่อนวันนี้หนึ่งวัน พุทธศาสนิกชนมักจะจัดเครื่องสักการะเช่น ดอกไม้ ธูปเทียน เครื่องใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน เป็นต้น มาถวายพระภิกษุ สามเณร ที่ตนเคารพนับถือ ที่สำคัญคือ มีประเพณีหล่อเทียนขนาดใหญ่เพื่อให้จุดบูชาพระประธานในโบสถ์อยู่ได้ตลอด 3 เดือน มีการประกวดเทียนพรรษา โดยจัดเป็นขบวนแห่ทั้งทางบกและทางน้ำแม้การเข้าพรรษาจะเป็นเรื่องของภิกษุ แต่พุทธศาสนิกชนก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ ทำบุญรักษาศีลและชำระจิตใจให้ผ่องใส ก่อนวันเข้าพรรษาชาวบ้านก็จะไปช่วยพระทำความสะอาดเสนาสนะ ซ่อมแซมกุฏิวิหารและอื่นๆ พอถึง วันเข้าพรรษาก็จะไปร่วมทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ ฟังธรรมและรักษาอุโบสถศีลกันที่วัด บางคนอาจตั้งใจงดเว้น อบายมุขต่างๆ เป็นกรณีพิเศษ เช่น งดเสพสุรา งดฆ่าสัตว์ เป็นต้น อนึ่ง บิดามารดามักจะจัดพิธีอุปสมบทให้บุตรหลาน ของตนโดยถือกันว่าการเข้าบวชเรียนและอยู่จำพรรษาในระหว่างนี้จะได้รับ อานิสงส์อย่างสูงประเพณีหล่อเทียนเข้าพรรษา เป็นประเพณีที่กระทำกันเมื่อใกล้ถึงฤดูเข้าพรรษาซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ พระภิกษุจะต้องอยู่ประจำวัดตลอด ๓ เดือนมาตั้งแต่โบราณกาล การหล่อเทียนเข้าพรรษานี้มีอยู่เป็นประจำ ทุกปี เพราะในระยะเข้าพรรษานี้ พระภิกษุจะต้องมีการสวดมนต์ทำวัตรทุกเช้าเย็นและในการนี้จะต้องมีธูป เทียนจุดบูชาด้วย พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย จึงพร้อมใจกันหล่อเทียนเข้าพรรษาสำหรับให้พระภิกษุจุดเป็น การกุศลทานอย่างหนึ่งเพราะเชื่อกันว่าในการให้ทานด้วยแสงสว่าง จะมีอานิสงฆ์เพิ่มพูนปัญญาหูตาสว่างไสว ตามชนบท การหล่อเทียนเข้าพรรษาทำกันอย่างเอิกเกริกสนุกสนานมาก เมื่อหล่อเสร็จแล้ว ก็จะมีการแห่แหน รอบพระอุโบสถ ๓ รอบ แล้วนำไปบูชาพระตลอดระยะเวลา ๓ เดือน บางแห่งก็มีการประกวดการตกแต่งมี การแห่แหนรอบเมืองด้วยริ้วขบวนที่สวยงามและถือว่าเป็นงานประจำปีทีเดียว ในวันนั้นจะมีการร่วมกันทำบุญตักบาตรถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ เป็นการร่วมกุศลกันในหมู่บ้านนั้น

ประเพณีแห่เทียนพรรษา อุบลราชธานี http://www.ubonguide.com/

กิจกรรมต่างๆ ที่ควรปฏิบัติในวันเข้าพรรษา ๑. ร่วมกิจกรรมทำเทียนจำนำพรรษา ๒. ร่วมกิจกรรมถวายผ้าอาบน้ำฝน และจตุปัจจัย แก่ภิษุสามเณร ๓. ร่วมทำบุญ ตักบาตร ฟังธรรมเทศนา รักษาอุโบสถศีล ๔. อธิษฐาน งดเว้นอบายมุขต่างๆ